F5 Access from Anywhere by SSL VPN
Enable trusted remote access
จากสถานะการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้หลายองค์กรจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ ซึ่งหัวข้อสำคัญคือการที่พนักงานสามารถทำงานได้จากภายนอกสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานจากที่บ้าน หรือตามสถานที่ต่างๆ โดยที่ทางองค์กรต้องการความสามารถในรักษาความปลอดภัยควบคู่ไปกับการมอบประสบการณ์การเข้าใช้งานที่ดี เสมือนกับนั่งอยู่ภายในสำนักงานได้
โดยปัจจัยเสี่ยงที่พบในการใช้งาน VPN โดยทั่วไป มีดังนี้
- Secure remote access
เราจะทราบได้อย่างไรว่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการ remote access กลับเข้ามาภายในองค์กรมีความปลอดภัย ทางผู้ใช้งานอาจนำเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวเชื่อมต่อกลับเข้ามายังองค์กร โดยที่ไม่ทราบว่ามีไวรัสหรือมัลแวร์แอบซ่อนอยู่ ทำให้องค์กรได้รับความเสียหาย - Compatible platform
ความหลากหลายของอุปกรณ์ในปัจจุบัน ทำให้การควบคุมหรือ กำหนดอุปกรณ์ที่สามารถเข้าใช้งานได้เป็นไปอย่างยากลำบาก - Performance Degrade
การใช้งานประเภท Voice และ VDO conference มีความต้องการประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการเข้าใช้งาน เพื่อให้การสทนาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง - Identity Access
เราจะสามารถระบุตัวตนและจำกัดสิทธิของผู้ที่เข้ามาใช้งานได้อย่างไร โดยที่สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้งาน
F5 Networks SSL VPN solution
F5 SSL VPN solution ส่งมอบความสามารถในการใช้งาน SSL VPN และการรักษาความความปลอดภัย ดังนี้
1. End-point Inspection
ด้วยความสามารถในการคัดกรองอุปกรณ์ ทางองค์กรสามารถกำหนดเงื่อนไขของอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในการ remote access กลับเข้ามาภายในองค์กรผ่านทาง VPN ได้ ยกตัวอย่าง สามารถกำหนดให้เฉพราะอุปกรณ์ที่มีการลง antivirus และมีการแสกนอุปกรณ์ภายในช่วงเวลา 3 วันเท่านั้น ที่มีสิทธิเข้าใช้งาน SSL VPN
2. Agent & Agentless
สามารถเข้าใช้งานได้ทั้งรูปแบบ Agent และรูปแบบเวป Browser โดยสามารถรองรับได้หลากหลายแพลตฟอร์ม เพื่อตอบสนองการใช้งาน
BIG-IP Edge Client: Windows OS, macOS, and Linux OS
F5 Access: IOS, Android, Chrome
Browser-Based: Chrome, Firefox Edge
3. DTLS Protocol
เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน Voice media ผ่านช่องทางสื่อสารประเภท UDP (Encrypted UDP tunnel) ทำให้ไม่เกิดดีเลย์ พร้อมเสริมการป้องกันด้วยการเข้ารหัสข้อมูล
4. Single Sign-On (SSO)
ระบบการยืนยันตัวบุคคล (Authentication) ของแอฟพลิเคชั่น ช่วยให้สามารถเข้าใช้งานได้หลายระบบ โดยลงชื่อเข้าใช้งานเพียงครั้งเดียว (Login) ซึ่ง F5 Networks สามารถใช้งานร่วมกับโปรโตคอล OCSP, SAML และ OAuth เพื่อรองรับแอฟพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม
5. Multi-Factor Authentication
F5 Networks ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลผ่านหลายขั้นตอน นอกจากการใช้การป้อน Username และ Password ซึ่ง F5 Networks สามารถที่จะใช้งานการยืนยันตัวตนร่วมกับ Token ชั้นนำได้เช่น RSAsecureID, Gemalto, Duo และ Token อื่นๆ นอกจากนี้ F5 VPN ยังมีระบบทำ One time password เพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้อีกด้วย
6. Flexible Workflow Authentication Customization
F5 Visual Policy Editor เป็นระบบการสร้าง Workflow การยืนยันตัวตนของ F5 Networks โดยเป็นระบบที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่มองเห็นภาพรวม Policy การยืนยันตัวตนของแต่ละขั้นตอน และยังสามารถเพิ่ม Rules ของแต่ละผู้ใช้งาน จบและครบในหน้าเดียว นอกจากนี้ VPE มีความยืดหยุ่นในการสร้าง Policy ย่อย เพื่อตอบโจทย์การ Customize policy เฉพาะอีกด้วย
ผู้สนใจในผลิตภัณฑ์ของ F5 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด โทร. +66 2032 9999 อีเมล :